การเลือกลู่วิ่งไฟฟ้า ต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรกันบ้าง สรุปมาให้ฟังสั้นๆ กับ 5 ข้อที่ต้องรู้ก่อนเลือกลู่วิ่ง
1.มอเตอร์
ความแรงหรือความเร็วของลู่วิ่งจะใช้เป็นหน่วย “แรงม้า” หรือภาษาอังกฤษจะเรียกว่า “Horsepower” ตัวย่อ “HP” และจะถูกแบ่งออกง่ายๆ ถ้า 1-3 แรงม้าจะเป็นมอเตอร์ที่ใช้งานทั่วไปในบ้าน (Home Use) ส่วน 4-5 แรงม้าสำหรับใช้งานอย่างต่อเนื่อง สำหรับคนที่ต้องการทำ Long Run ส่วนใหญ่ในฟิตเนสหรือยิมจะใช้ประมาณ 4-5 แรงม้าขึ้นไป
ซึ่งก็จะเกิดคำถามว่าทำไมต้องมีลู่วิ่งแรงๆ มากถึง 6 หรือ 7 แรงม้า ก็เป็นเพราะว่าจุดประสงค์ของการใช้งานตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ยิ่งมอเตอร์แรงการใช้งานระยะเวลานานก็ทำได้ดีกว่า ใช้ต่อเนื่องกันได้ไม่ต้องกลัวมอเตอร์พัง เหมาะสำหรับใช้งานในครอบครับ ในยิมหรือฟิตเนส หรือแม้กระทั่งคนที่ต้องการวิ่ง Long Run ยาวๆ จะเหมาะกับมอเตอร์ประเภทนี้ (เพราะถ้าใช้มอเตอร์ที่แรงม้าน้อยๆ มาใช้วิ่งยาวๆ จะทำให้มอเตอร์ทำงานหนักเกินไปและพังไว)
สนใจสั่งซื้อ ลู่วิ่งแบบใช้ไฟฟ้า คลิ๊ก
.
.
2.พื้นที่วิ่ง
ถ้าเวลาพูดถึงลู่วิ่งจะไม่ได้หมายถึงขนาดของตัวเครื่อง แต่หมายถึงพื้นที่วิ่งหรือสายพานนั่นเอง ซึ่งการวัดส่วนใหญ่จะใช้เป็น CM หรือเซนติเมตร กว้างxยาว ซึ่งการดูรายละเอียดของพื้นที่การวิ่งนั้น ต้องดูจาก 3 ส่วน
1. พื้นที่วิ่งกว้าง .... cm
2. พื้นที่วางยาว .... cm
3. ขอบพักเท้า .... cm (บางที่มักจะรวมขนาดขอบพักเท้าเข้าไปในความสายพาน ต้องถามรายละเอียดให้ชัดเจน)
ความกว้าง คือเราจะดูเฉพาะแค่ตัวสายพานเป็นตัวที่จะชี้ถึงความสบายในการวิ่ง ยิ่งพื้นที่สายพานกว้างเท่าไหร่ เรายิ่งวิ่งสบายขึ้นเท่านั้น เปรียบเสมือนการวิ่งบนทางโล่งๆ VS กับวิ่งบนทางแคบๆ เหมือนกับการที่เราวิ่งในสวนสาธารณะที่ทางโล่งๆ มันจะให้ความรู้สึกที่สบาย อิสระ ไม่กังวล แต่ถ้าเป็นทางแคบๆ เราก็จะต้องระวังว่าจะชน ซึ่งถ้าลู่วิ่งอยากวิ่งให้สบายๆ แนะนำว่าความกว้างไม่ต่ำกว่า 40cm แต่ถ้าอยากให้สบายๆ เลยก็สามารถเลือกลู่วิ่งกว้างขึ้นไปอีกได้ แต่ยิ่งกว้างราคาก็ยิ่งสูงขึ้นไปด้วย
ความยาว ความยาวของสายพานนั่นเอง ถ้าหากซื้อลู่วิ่งมาแค่เดินเร็วหรือวิ่งเหยาะๆ ออกกำลังกายก็ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อลู่วิ่งที่สายพานยาวเกินไป เพราะราคามันจะสูงเกินความจำเป็น แต่ถ้ากรณีเป็นคนตัวสูงแบบนายแบบนางแบบ ที่ความสูงเฉลี่ย 180 เป็นต้นไป ต้องเลือกลู่วิ่งที่ยาวหน่อย เพื่อให้รองรับช่วงขาที่ยา เพราะขายิ่งยาว ลู่วิ่งต้องยาวตาม ถ้าสำหรับคนที่ส่วนสูงเกิน 180 ขึ้นไป ควรยาวไม่ต่ำกว่า 140 cm
.
3.ความเร็วลู่วิ่ง
จะใช้เป็นกิโลเมตร / ชั่วโมง (ความเร็วของลู่วิ่งก็จะสัมพันธ์กับมอเตอร์ยิ่งมอเตอร์แรงม้าเยอะๆ ก็จะทำให้ลู่วิ่งสามารถทำความเร็วได้มาก)
0-5km/h เดินเร็ว
6-9km/h จ็อกกิ้ง
10-14km/h วิ่งเร็ว
15-20km/h สปริ้น
.
4.ความชัน
ลู่วิ่งไฟฟ้าจะมีบางรุ่นที่สามารถปรับความชันได้ ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของระบบการปรับบางตัวจะเป็นระบบออโต้ใช้ไฟฟ้า แต่บางตัวก็ต้องเป็นแบบแมนนวลหรือใช้มือ (ส่วนใหญ่พวกนี้จะเป็นสลักล็อค) ซึ่งถ้าแบบปรับมือจะได้ประมาณ 1-3 ระดับ แต่ถ้าเป็นไฟฟ้าส่วนใหญ่จะได้สูงสุด 12-18 ระดับจากพื้น และตัวเลขที่แสดงถ้าต่างรุ่น ต่างยี่ห้อความชันก็อาจจะไม่เท่ากัน
.
5.น้ำหนักของคนวิ่ง
ลู่วิ่งแต่ละตัวแต่ละประเภทจะรับน้ำหนักคนวิ่งได้ไม่เท่ากัน ซึ่งจริงๆ แล้วการเลือกซื้อลู่วิ่งที่เหมาะสมกับน้ำหนักต้องคำนึงถึง 3 ปัจจัย
1.น้ำหนักคนวิ่ง 2.น้ำหนักเครื่อง 3.ขนาดของมอเตอร์
*ในกรณีที่ใช้งานหลายคนในบ้าน ให้อ้างอิงน้ำหนักจากคนที่มีน้ำหนักเยอะที่สุดในบ้านจะดีที่สุด
สนใจสั่งซื้อ ลู่วิ่งแบบใช้ไฟฟ้า คลิ๊ก
.
ชิน ชินพรรธน์ ทีม Content Runnercart
เด็กหนุ่มกรุงเทพร่างบางที่หลงใหลการวิ่ง City Run กลางแดดเปรี้ยงๆ ไม่ใช่อะไรครับ ตื่นเช้าไม่ทัน ผ่าม! และเค้ายังชอบการวิ่งเทรลเพราะรู้สึกว่าท้าทายจิตใจ ร่างกาย และเป็นส่วนนึงกับธรรมชาติ เพซวิ่งแบบมีความสุข คือเพซ 6-7 งานอดิเรกคือการดูหนังและเม้าท์มอย
สโลแกนส่วนตัว วิ่งไม่มาก ภายภาพเน้นๆ