ความแตกต่างระหว่างลู่วิ่งไฟฟ้าและลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า

ความแตกต่างระหว่างลู่วิ่งไฟฟ้าและลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า

admin runnercart |

"ลู่วิ่งไฟฟ้ากับไม่มีไฟฟ้าแตกต่างกันอย่างไร" ประโยคนี้คงคุ้นๆ เพราะเป็นคำถามแรกๆ ที่ผุดขึ้นมาสำหรับคนที่กำลังมองหาลู่วิ่งซักเครื่องมาไว้ที่บ้านหรือคอนโด วันนี้ผมเลยอยากจะลองชวนมาหาคำตอบกันครับว่าลู่วิ่งไฟฟ้ากับไม่มีไฟฟ้ามันจะแตกต่างกันอย่างไรกันบ้าง (นอกเสียจากเรื่องใช้ไฟฟ้ากับไม่ใช้ไฟฟ้า จริงๆ มันมีจุดต่างอีกพอสมควรเลยครับ)

ความแตกต่างระหว่างลู่วิ่งไฟฟ้าและลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า

.

มาเริ่มกันที่ลู่วิ่งแบบใช้ไฟฟ้า
มอเตอร์ของลู่วิ่งไฟฟ้าจะมี 2 แบบคือ AC (กระแสสลับ) และ DC (กระแสตรง)

DC Motor เป็นมอเตอร์กระแสงตรงเหมาะสำหรับใช้ที่บ้าน โดยมีราคาที่สบายกระเป๋า และประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากกว่า มีแรงม้าอยู่ที่ประมาณ 1-3 แรงม้า

จุดเด่น DC Motor
- ประหยัดไฟมากกว่ามอเตอร์แบบ AC
- เสียงเงียบกว่ามอเตอร์ AC
- เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้าน

แต่จะไม่เหมาะกับการใช้งานเป็นเวลานานๆ เนื่องจากมอเตอร์จะมีความร้อนสะสมได้เร็วกว่า AC

AC Motor เป็นมอเตอร์กระแสสลับ ใช้สำหรับในยิมหรือฟิตเนส มีแรงม้าตั้งแต่ 4 แรงม้าขึ้นไป แรงม้ายิ่งเยอะก็ยิ่งสามารถทำความเร็วได้สูง และยังสัมพันธ์กับการรับน้ำหนักของผู้วิ่งด้วย ยิ่งเยอะยิ่งรับน้ำหนักได้เยอะ

จุดเด่น
- ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 16-24 ชั่วโมง
- เหมาะกับคนที่อยากได้ลู่วิ่งสำหรับการทำ Long Run หรือใช้ด้วยกันทั้งครอบครัว
- ทำความเร็วสูงสุดได้ดีกว่า DC

.

ความแตกต่างระหว่างลู่วิ่งไฟฟ้าและลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า

.

จุดสังเกตุเพิ่มเติม
- น้ำหนักของผู้ใช้งาน จำเป็นจะต้องรู้น้ำหนักของตัวเองและการรับน้ำหนักของตัวเครื่อง เพราะหากลู่วิ่งรับน้ำหนักที่มากเกินไป จะทำให้มอเตอร์และสายพานชำรุดได้ง่าย เนื่องจากมอเตอร์ต้องทำงานมากกว่าปกติและสายพานต้องรับน้ำหนักเกินกว่าที่ตัวสายพานจะรับไหว
- การปรับความชัน ตัวลู่วิ่งไฟฟ้าบางรุ่นจะสามารถปรับความชันของลู่วิ่งได้ โดยการปรับได้ด้วยสองระบบหลักๆ (แล้วแต่รุ่น) 1. ปรับความชันด้วยมือ (Manual) และ 2. ปรับอัตโนมัติได้ขณะวิ่ง (Auto)
- หน้าจอและโปรแกรมการวิ่ง โดยปกติลู่วิ่งไฟฟ้านั้นจะมีโปรแกรมพื้นฐานทั้ง ความเร็ว, ความชัน, การเผาผลาญแคลอรี, เวลา, ระยะการวิ่ง, ปุ่มฉุกเฉิน แต่บางรุ่นนั้นก็จะมีโปรแกรมการฝึกวิ่งแถมมาด้วย และสุดท้ายในบางรุ่นก็มักจะมีลำโพงแถมมาในตัวลู่วิ่งเลย

 

เมื่อเปรียบเทียบกับลู่วิ่งที่ไม่ใช้ไฟฟ้า

ข้อดี
- สายพานขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์อัตโนมัติ ไม่ต้องออกแรงวิ่งเยอะ ถ้าเทียบกับไม่มีไฟฟ้า
- โปรแกรมวิ่งมีหลากหลาย ช่วยฝึกฝนการวิ่งและสร้างความบันเทิง
- คงความเร็วได้ง่ายกว่า
- เหมาะกับมือใหม่ ใช้ง่าย ไม่ต้องฝึกเยอะ

ข้อเสีย
- ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25-30 km/h เกินกว่านี้ไม่ได้ ถ้าอยากจะทำสปิ้นเร็วๆ ช่วงสั้นๆ จะทำไม่ได้
(นักกีฬา 30km/h ประมาณ 6-10 วินาที)
- จะมี Limit แล้วแต่มอเตอร์ ใช้นานมากไม่ได้ ขึ้นอยู่กับกำลังมอเตอร์
- ราคาของลู่วิ่งไฟฟ้าจะสัมพันธ์กับคุณภาพ หากอยากได้ฟังก์ชันที่ครบเครื่อง ราคาก็จะยิ่งสูง
- หากเลือกสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือใช้แบบหักโหม อาจทำให้เสียค่าซ่อมได้บ่อยครั้ง
- เป็นระบบไฟฟ้า แน่นอนว่าถ้าใช้งานเยอะก็จะทำให้เสียค่าไฟเยอะไปด้วย

สนใจสั่งซื้อ ลู่วิ่งแบบใช้ไฟฟ้า คลิ๊ก
.
ความแตกต่างระหว่างลู่วิ่งไฟฟ้าและลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า
.

มาดูต่อกันที่ลู่วิ่งแบบไม่ใช้ไฟฟ้า (Non motor)
ลู่วิ่งที่ไม่ใช้ไฟฟ้า หรือ Curve Treadmill บางคนอาจจะเรียกว่า ลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า ลู่วิ่งไม่มีมอเตอร์ หรือลู่วิ่งแบบโค้ง ชื่อเรียกเยอะแยะไปหมด ก็ตามแต่สะดวกในการเรียกได้เลยครับไม่มีผิด ไม่มีถูก ^ ^

ลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า นิยามของเจ้าเครื่องนี้ง่ายๆ เลยครับคือตัวเครื่องไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า การทำงานจะใช้แรงของคนวิ่งเป็นตัวทำให้สายพานเคลื่อนที่ ลักษณะของลู่วิ่งจะมีลักษณะโค้ง (ซึ่งองศาความโค้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น)

จุดสังเกตุเพิ่มเติม
- รับน้ำหนักได้สูงสุด โดยปกติลู่วิ่งชนิดนี้จะสามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่าลู่วิ่งไฟฟ้าทั่วไป
- ปรับความความหนืด (ลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้าจะไม่ใช่ความชัน แต่จะใช้เป็นความหนืดแทน)
เพื่อเพิ่มแรงต้านและเป็นการฝึกฝนความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ซึ่งในแต่ละรุ่นก็จะมีการปรับที่แตกต่างกัน และระดับความหนืดก็จะมีหลายระดับเช่นกัน

เมื่อเปรียบเทียบกับลู่วิ่งไฟฟ้า

ข้อดี
- ระยะใช้งานยาวนาน ประหยัดค่าซ่อม ประหยัดค่าไฟ ไร้กังวลเรื่องของมอเตอร์ไฟฟ้า
- กำหนดความเร็วตามร่างกายของผู้ใช้ ไม่ต้องคอยปรับตรงหน้าจอ
- เผาผลาญไขมันได้มากกว่าลู่วิ่งไฟฟ้ามากถึง 30%
- สานพานเป็นบานเกล็ด ทำให้ใช้งานได้นานกว่าสานพานของลู่วิ่งทั่วไป
- ทำ Speed ได้ตามศักยภาพของคนวิ่ง ฝึกซ้อม Interval ได้สบาย ๆ
- เผาพลาญพลังงานต่อ 1 นาที มากกว่าลู่วิ่งไฟฟ้า

ข้อเสีย
- เนื่องจากลู่วิ่งจะเป็นรูปทรงโค้ง ต้องฝึกใช้ในช่วงแรก
- เบื่อได้ง่ายกว่าลู่วิ่งไฟฟ้า เพราะไม่มีลูกเล่นเยอะเท่าลู่วิ่งไฟฟ้า

สนใจสั่งซื้อ ลู่วิ่งแบบไม่ใช้ไฟฟ้า(Nonmotor) คลิ๊ก
.
ความแตกต่างระหว่างลู่วิ่งไฟฟ้าและลู่วิ่งไม่ใช้ไฟฟ้า
.

ลู่วิ่งแต่ละประเภทเหมาะกับนักวิ่งสไตล์ไหนบ้าง

ลู่วิ่งไฟฟ้า
1. เหมาะกับมือใหม่ที่ไม่ต้องการการปรับตัวในการใช้งานเยอะ และใช้ร่วมกันทั้งบ้าน
2. รองรับการใช้งานคู่กับ Zwift app วิ่งแข่งกับคนทั้งโลกด้วย Zwift เหมาะสำหรับคนขี้เบื่อ
3. คุมเพซได้ง่ายกว่า เหมาะกับใครที่กำลังฝึกการคุมเพซ

ลู่วิ่งไม่มีไฟฟ้า
1. ตอบสนองกับความเร็วดี เหมาะกับการวิ่งเร็วสลับช้าหรือ interval
2. วิ่งเร็วมากๆได้ จะเพซ 3 เพซ 2 ไม่มีปัญหา
3. วิ่งนานเท่าไหร่ก็ได้ สามารถใช้วิ่งไกลได้ สาย Ultra Endurance ต้องมี
4. ด้วยลักษณะลู่วิ่งที่โค้งทำให้การวางเท้าไม่มีแรงกระเเทกเสียงดังเหมือนลู่แบบมอเตอร์
เหมาะกับคอนโด ตึกแถว
5. หมดห่วงเรื่องซ่อมบำรุง เพราะไม่มีมอเตอร์ สายพานทนทาน

.

Admin chin

ชิน ชินพรรธน์ ทีม Content Runnercart
เด็กหนุ่มกรุงเทพร่างบางที่หลงใหลการวิ่ง City Run กลางแดดเปรี้ยงๆ ไม่ใช่อะไรครับ ตื่นเช้าไม่ทัน ผ่าม! และเค้ายังชอบการวิ่งเทรลเพราะรู้สึกว่าท้าทายจิตใจ ร่างกาย และเป็นส่วนนึงกับธรรมชาติ เพซวิ่งแบบมีความสุข คือเพซ 6-7 งานอดิเรกคือการดูหนังและเม้าท์มอย

สโลแกนส่วนตัว วิ่งไม่มาก ภายภาพเน้นๆ

ทิ้งข้อความไว้