วีดีโอเดทแรก Saucony Kinvara 12
.
Saucony Kinvara 12 ความเรียบง่ายที่กลายเป็นความสวยงามของการวิ่ง
.
.
ต้องรู้ !!!
- เบาลงกว่ารุ่นเก่าถึง 11 กรัม น้ำหนัก ผู้ชาย (213 g) สำหรับ US 9 / ผู้หญิง (184 g) สำหรับ W7.0
- หน้าเท้ากว้างไม่อึดอัด
- ความมหัศจรรย์ของ Midsole
.
Kinvara ถือว่าเป็นซีรี่ย์รองเท้าวิ่งน้อยรุ่นที่ถูกผลิตอย่างต่อเนื่องมาอย่างยาวนานจนตอนนี้มีครบโหลไปซะแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็เดินทางมาถึงรุ่นที่ 12 ซึ่งรุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวที่น่าจับตามองมากๆ มีการปรับเปลี่ยนใหม่หลากหลายจุดและจุดที่น่าสนใจคือเรื่องของ "น้ำหนัก" เพราะครั้งนี้เค้ารีดน้ำหนักตัวรองเท้าลงไปถึง 11 กรัม ซึ่งการทำให้น้ำหนักลดลงไปแบบนี้ ทำให้เจ้า Kin 12 มีความใกล้เคียงกับรุ่น Kin 3 ซึ่งถือได้ว่า
เป็นการขยับเข้าใกล้และดึงความเป็นตัวตนดั้งเดิมของ Kinvara กลับมาอีกครั้ง แหม่ แค่นึกก็ตื่นเต้นแล้วครับ
.
.
Spec
น้ำหนัก : ชาย 213 กรัม (9US) / หญิง 184 กรัม (8US)
Stack Height : ส้นเท้า 28.5 หน้าเท้า 24.5
Drop : 4mm
หน้าเท้า : มีรุ่นหน้า Wide
ราคา : 3,999 บาท
.
.
ความรู้สึกครั้งแรกและการเลือกไซส์
เรื่องแรกที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือสีของเจ้า Kinvara 12 ที่ไม่มีความเข้ากันเลยแม้แต่น้อย ปวดใจสุดๆ ไม่รู้ตอนดีไซน์นี่อะไรดลใจเค้าจริงๆ ถัดมาที่เรื่องดีๆ กันบ้างดีกว่าครับ เพราะสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ คือน้ำหนักที่เบาลงแบบรู้สึกได้ อันนี้คือฟิลลิ่งแรกที่ใส่เป็นต้องบอกเลยว่า ดี!!! รวมถึง Upper ที่ให้ตัวได้ดีกว่ารุ่น 11 ใส่แล้วสบายเท้ามากกว่าไม่อึดอัด ยกเท้าเบาสบาย คล่องตัวดี ส่วนไซส์ผมใส่พอดีไซส์ คือ 8 US ไซส์ประจำไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องบวกเพิ่มหรือลดลง
.
.
Upper
มาเจาะลึกกันที่ส่วนแรก นั่นก็คือ Upper ซึ่งเจ้า Kinvara 12 จะใช้เป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า FORMFIT ซึ่งเทคโนโลยี FORMFIT หมายถึง 4 องค์ประกอบหลักดังนี้คือ
1.หน้าผ้าแบบ Engineered Mesh
2.แผ่นรองรองเท้า (Insole)
3.แผ่นรองปิดด้านบนที่ทำมาจากวัสดุ e-TPU
4.การยกขอบโฟมของพื้นชั้นกลาง (Midsole Walls)
.
ผ้าตาข่าย Engineered Mesh ซึ่งเป็นวัสดุที่รองเท้าหลายๆ คู่นิยมนำมาใช้้กัน จากที่ลองแล้วรู้สึกว่าใส่สบาย ไม่มีอึดอัด ระบายความร้อนได้ดี ยืดหยุ่นและให้ตัวได้ วิ่งยาวๆ ไกลๆ แล้วไม่มีปัญหาบีบข้างเท้าเลย และในส่วนของ Insole ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีพอดีไม่ดันอุ้งเท้า
.
.
ลิ้นรองเท้า บางนุ่มและสัมผัสที่เป็นมิตรกับเท้า ซึ่งเป็นอีกส่วนที่ผมรู้สึกว่าดีงามพระรามหนึ่งมาก มันเป็นความหนาที่กำลังดี ไม่หนาจนร้อนเหมือน triumph 18 แต่ก็ไม่บาง แข็งระคายเคืองหลังเท้า และด้านข้างมีการเย็บติดกับตัวรองเท้าทำให้ไม่ดิ้นไปมาในขณะที่วิ่งแต่ที่ติดก็คือสีลิ้นรองเท้านี่ก็ไม่ธรรมดาฉูดฉาด และขัดตาสุดๆ
.
เชือกรองเท้าแบบบางไม่กดหลังเท้า และให้ความยาวมาถือว่ากำลังดี ไม่ยาวจนเกินไปและไม่สั้นเกินไปสำหรับใครที่ผูกเชือกแบบล็อคข้อเท้า
.
.
บริเวณส้นรองเท้า (Heel Counter) มีความแข็ง เสริมป้องกันช่วงบริเวณส้นเท้าสำหรับประคองและล็อคข้อเท้า มาพร้อมกับเป็นพลาสติกสำหรับใช้เวลาสวมใส่รองเท้าให้สะดวกและง่ายขึ้น
.
และเทคโนโลยีใหม่อย่าง Swallow tail เป็นหางแยกออกมา 2 แฉก เชื่อกันว่าการดีไซน์แบบนี้จะทำให้การลงส้นเท้าสมูธมากขึ้น นุ่มนวลมาขึ้นนั่นเอง คิดว่าน่าจะได้รับแรงบันดาลใจมากจากซีรี่ย์เรือธง Endorphin
.
.
Midsole
ถัดมาที่ PWRRUN ถือว่าเป็นพื้นโฟมที่ถูกใช้เป็นพื้นฐานของพื้นรองเท้ารุ่นใหม่ของแบรนด์ Saucony โดย PWRRUN ทำมาจากวัสดุ TPU ผสมกับ EVA (TPU/EVA Blend) ทำให้ช่วยตอบสนองรอบขาได้เป็นอย่างดี ส่งแรงคืนได้และยังช่วยลดแรงกระแทกได้ดี รวมทั้งยังคงความนุ่มของพื้นไว้ได้เป็นอย่างดีและนี่ถือว่าเป็น Miracle ของ Kinvara เลยก็ว่าได้ ให้ฟิลลิ่งที่กำลังดีไม่เร่ง ไม่รั้ง วิ่งได้เพลินๆ
.
.
Outsole
ถูกเลือกใช้เป็นตัว XT-900 มันก็คือวัสดุพื้นรองเท้าชั้นนอกทำจากยางคาร์บอนระดับพรีเมียมที่ให้การยึดเกาะที่ยอดเยี่ยมและมีคุณสมบัติให้ความทนทานสูง ซึ่งถูกวางไว้ในตำแหน่งที่มีโอกาสจะเสียดสีและสึกหรอได้ง่ายซึ่งก็คือบริเวณหน้าเท้าและส้นเท้า ที่ไม่ได้ใส่ไว้ทั้งพื้นเพราะต้องการให้มี น้ำหนักเบาลง และในส่วนของดีไซน์ลายพื้นรองเท้าก็ช่วยทำให้ตัวพื้นให้ตัวได้ดีขึ้นโดยการทำเป็นร่องๆ และเป็นการลดน้ำหนักตัวรองเท้าลง ยึดเกาะได้ค่อนข้างโอเคฝนตกพื้นเปียกยังเอาอยู่
.
.
ความรู้สึกหลังจากการใช้งาน Saucony Kinvara 12 - แอดชิน
ต้องออกตัวก่อนว่าผมเป็นแฟนบอยของ ซีรี่ย์ Kinvara เพราะตั้งแต่ได้ใช้เจ้าตัว Kin 8 มา ก็รู้สึกได้เลยว่ารองเท้าวิ่งซีรี่ย์นี้ถึงแม้จะดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยพลังพิเศษ และความมหัศจรรย์ ที่ผมบอกไปไม่ได้โอเวอร์เกินไปนะครับ เพราะเมื่อผมใส่เจ้า Kinvara ที่ไรมันจะมีความรู้สึกตอนวิ่งที่กำลังดีเสมอ กำลังดียังไง ผมจะขยายความให้ฟังครับ ที่บอกว่าพอดีคือ เป็นความพอดีของแรงดีดส่งที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ไม่ทำให้คนวิ่งเครียดหรือเหนื่อยไม่เร่งเรา ไม่รั้งเรา และน้ำหนักที่เบาทำให้เรายกเท้าได้อย่างสบาย
ถ้าเทียบรองเท้าคู่นี้เหมือนกับอะไร ผมคงบอกว่ามันเหมือนปรัชญาเซน ที่ทุกอย่างมันดูเรียบง่าย แต่ทรงพลัง ซึ่งข้างต้นผมมีเกริ่นว่าเจ้า Kinvara 12 เป็นรองเท้าที่มี Miracle ที่บอกว่า Miracle มันมาจากตัว Midsole นี่แหละครับ เพราะว่าในช่วงต้นที่ใส่วิ่ง จะรู้สึกว่าธรรมดามากๆ ไม่หวือหวา ไม่โดดเด่นใดๆ แต่พอวิ่งไปซักระยะ ถึงรอบ ถึงจังหวะ และใช่ครับเมื่อ Miracle ปรากฎตัว เราจะรู้สึกเลยว่า ทุกการก้าวเท้าของเรามันมีแรงส่งที่กำลังดีจริงๆ ในไตรมาสแรกของปี 2021 สำหรับรองเท้า Daily Trainner เจ้า Kinvara 12 ถือว่าครองใจผมไปเลย
.
.
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- น้ำหนักเบา
- สามารถวิ่งเพซช้าได้ จะทำความเร็วก็มา
- วิ่งแล้วไม่เครียด
- หน้าเท้าใส่สบายไม่อึดอัด
- ราคาถูกไม่เกิน 4,000 บาท
.
ข้อเสีย
- สีสันที่ไม่มีความเข้ากัน
- อาจจะต้องให้เวลากับตัวรองเท้าซักหน่อย
.
.
ข้อเสนอแนะ
สำหรับ Kinvara 12 ถือว่าเป็นรองเท้าที่ช่วงแรกอาจจะต้องทำใจซักหน่อยเพราะความสนุกยังไม่มา แต่พอวิ่งไปซัก 5-10 กิโล ตัว Midsole เริ่มเข้าที่ ตอนนั้นแหละครับความสนุกมาแน่นอน เรียกว่าต้องให้เวลากับเค้าซักหน่อย และถือว่าเป็นรองเท้า Daily Trainner ที่น่าสนใจเพราะสามารถใส่วิ่งช้าก็ได้ ทำความเร็วก็มา กดแล้วไม่เหนื่อย ที่สำคัญจะเอาเข้ายิมก็ได้เพราะมีความมั่นคงสูง ไม่เทไปด้านหน้า
เหมาะกับใคร
เหมาะกับคนที่กำลังมองหารองเท้าราคาไม่แรง แต่สามารถจบได้ในคู่เดียวไม่ว่าจะ ซ้อม แข่ง วิ่งออกกำลังกาย เข้ายิม และน้ำหนักต้องเบา หรือใครที่เป็นแฟนๆ Saucony ก็ควรจะต้องมี Kinvara ไว้ซักคู่สำหรับวันวิ่งสบายๆ
แอดชิน รีวิว
แอดชิน ถ่ายภาพ
ชิน ชินพรรธน์ ทีม Content Runnercart
เด็กหนุ่มกรุงเทพร่างบางที่หลงใหลการวิ่ง City Run กลางแดดเปรี้ยงๆ ไม่ใช่อะไรครับ ตื่นเช้าไม่ทัน ผ่าม! และเค้ายังชอบการวิ่งเทรลเพราะรู้สึกว่าท้าทายจิตใจ ร่างกาย และเป็นส่วนนึงกับธรรมชาติ เพซวิ่งแบบมีความสุข คือเพซ 6-7 งานอดิเรกคือการดูหนังและเม้าท์มอย
สโลแกนส่วนตัว วิ่งไม่มาก แต่ถ้ากายภาพโปรดเรียก