Saucony Kinvara Pro - รองเท้าวิ่งคาร์บอนที่ใส่วิ่งได้ทุกวัน (เด้ง ดึ๋ง ดั๋งสุดๆ)
Kinvara ที่เคยมินิมอล เรียบง่าย ธรรมดา ครั้งนี้ Saucony ตั้งโจทย์ใหม่ ปรับนิยามของ Kinvara ให้มีความแตกต่างและผาดโผนขึ้นกว่าเดิม จนเกิดใหม่ออกมาเป็นรุ่น Kinvara Pro รองเท้าวิ่งที่มีแผ่นคาร์บอน และถูกสร้างให้เป็นรองเท้าคาร์บอนที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน
ไม่ว่าคุณจะวิ่งที่ความเร็วเท่าไหร่ ไม่ว่าคุณจะวิ่งอยู่ที่ไหน Kinvara Pro พร้อมอยู่เคียงข้างเท้าของคุณ
Kinvara Pro พัฒนามาเพื่อยกประสิทธิภาพการวิ่งของคุณในทุกๆ วัน ถูกออกแบบให้คุณได้ปลดล็อคความโปรในตัวคุณ หรือ "PROformance" ที่เป็นตัวคุณในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ในวันแข่งขันอีกต่อไป แต่เป็นไปได้ในทุกๆ วัน
CARBON-PLATED FOR 99% OF YOUR RUN. NOT 1%.
รองเท้าวิ่งมีแผ่นคาร์บอน ที่ออกแบบมาสำหรับการวิ่ง 99% ของคุณไม่ใช่แค่ 1%
โดยทั่วไปรองเท้าวิ่งที่มีแผ่นคาร์บอน หรือพวก Super Shoes ออกแบบมาสำหรับใช้ใน "วันแข่ง (Race Day)" สำหรับนักวิ่ง 1 คน = 1% หากเทียบกับการวิ่งอื่น ๆ (ซ้อม,วิ่งยาว,สปีด,อีซี่ ฯลฯ ที่แทบจะเป็น 99%)
ดังนั้น Kinvara Pro คือรองเท้าที่แตกต่างจากรองเท้ามีคาร์บอนอื่นๆ เป็นรองเท้าคาร์บอนที่ใช้ง่าย เพิ่มโอกาสในการใช้งานให้มากขึ้น ไมไ่ด้จำกัดแค่ Race Day อีกต่อไป
ทางแบรนด์บอกว่า กลุ่มที่แนะนำให้ใช้ Kinvara Pro
- 1st Carbon Plated Seeker - คนที่ไม่เคยใช้รองเท้ามีแผ่นคาร์บอนมาก่อน แต่อยากลองคู่แรก โดยที่ไม่เป็น Seper Shoes ที่ใส่ยากเกินไป
- Faster - คนที่ไม่ใช่สายวิ่งเร็ว ไม่ใช่ Elite แต่อยากพัฒนาตัวเองให้เร็วขึ้น โดยที่รองเท้ายังรองรับ
- Dedicated Runners - นักวิ่งที่มีแผนการซ้อมสม่ำเสมอ มองหารองเท้าคาร์บอนที่ใช้เป็น Daily Trainer Shoes
KINVARA PRO มีความพิเศษอะไรบ้าง?
Kinvara Pro เป็นรองเท้าที่มีการรวมเอาเทคโนโลยีที่ดีทีสุดของแบรนด์ ณ ตอนนี้มารวมกัน (PWRRUN / PWRRUN + / PWRRUN PB และแผ่นคาร์บอน )เพื่อสร้างรองเท้าวิ่งที่ใส่ง่าย ใส่สบาย สําหรับทุกๆ คน ในทุกๆ วัน มีเทคโนโลยี SPEEDROLLที่สามารถเข้ากับนักวิ่งได้ในทุกรูปแบบ เป็นได้ทั้งรองเท้าวิ่งทําความเร็วที่มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็เน้นไปที่ความสบายที่มากพอสําหรับการวิ่งในทุกๆ วัน
ความแตกต่าง ระหว่าง KINVARA 14 กับ KINVARA PRO
ทั้งคู่เป็นรองเท้าวิ่งที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ความต่างคือเรื่องของ ประสบการณ์ความรู้สึกในการใช้งาน
Kinvara ทั่วไปหรือ Kinvara 14 จะมีน้ําหนักที่เบามาก และยืดหยุ่น กล้ามเนื้อของคุณจะถูกใช้มากกว่าการได้รับแรงส่งจากตัวรองเท้า
Kinvara Pro จะให้แรงส่ง มีความพุ่งไปข้างหน้าได้มากกว่า ในแบบที่ไม่เค้นจนเกินไป มี SPEEDROLL ที่เสริมให้คุณไปข้างหน้าได้ไม่มากไม่น่อย เหมาะกับการใช้วิ่งได้ในทุกๆ วัน
เทคโนโลยี
SCARBON-PLATED FOR 99% OF YOUR RUNS. NOT 1%
Kinvara Pro พัฒนามาเพื่อยกประสิทธิภาพการวิ่งของคุณใน “ทุกๆ วัน”ถูกออกแบบให้คุณได้ปลดล็อคความโปรในตัวคุณ หรือ “PROformance”ที่เป็นตัวคุณในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่ในวันแข่งขันอีกต่อไป แต่เป็นไปได้ในทุกๆ วัน
PROPEL
เทคโนโลยี SPEEDROLLที่ให้แรงกลิ้งส่งไปข้างหน้า และแผ่น Carbon-Fiber Plate ความยาว 3/4 ที่จูนให้เข้าได้กับการวิ่งทุกรูปแบบ
REBOUND
เด้งกันให้สุด กับพื้นโฟม 2 ชั้น โดยชั้นโฟมตัวท็อป PWRRUN PBในชั้นที่ติดกับฝ่าเท้า และเสริมความหนาและความทนทานของพื้นให้มากขึ้นในชั้นล่างด้วยโฟม PWRRUN
OPTIMIZE
สร้างมาเพื่อตอบโจทย์การเป็นรองเท้าคาร์บอนที่คุณใช้ได้ในทุกๆ วัน และทุกรูปแบบการวิ่งจริงๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
Spec :
Stack Height : ส้นเท้า 42 หน้าเท้า 34
Drop : 8 mm.
น้ำหนัก : ชาย(9US) 269 กรัม / หญิง(8US) 240 กรัม
Category : Neutral
การรองรับ : พื้นกลาง PWRRUN PB และ PWRRUN
แผ่นรองด้านใน : PWRRUN+
ความรู้สึกแรกกับการใช้ Saucony Kinvara Pro (แอดมินชิน)
หลังจากที่ได้มีโอกาสเอา Kinvara Pro มาลอง ครั้งแรกที่ได้หยิบและลองใส่ดู ผมแอบมีความรู้สึกคิดถึง Hoka Bondi X ขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะว่า รูปร่าง หน้าตา ถึงแม้จริงๆ แล้วต้นกำเนินของทั้งสองรุ่นจะเป็นคนละสายกันก็ตาม (Bondi จะเป็นสายซัพพอร์ตนุ่มนิ่ม) ส่วน (Kinvara จะเป็นสายมินิมอล เรียบๆ บางๆ ไม่หวือหวา) แต่พอทั้งคู่ใส่แผ่นคาร์บอน ผมกลับรู้สึกว่ามันมีความคล้ายกันอยู่เบาๆ (เป็นรองเท้าคาร์บอนที่สามารถใส่ได้ทุกวันแล้วไม่สะท้านเท้า) และมีอีก 2 รุ่นที่ผุดขึ้นมาก็คือ Endorphin Speed 3 และ Mach X แอบมีความคล้ายกันอยู่ในบางจุด เช่น ทรงรองเท้าและแรงเด้ง รวมถึงคารแรคเตอร์รองเท้าที่เป็นตัวซ้อมทำความเร็ว และใส่ได้ทุกวัน
หลังจากลองเดินเล่นในร้าน วิ่งวนนิดหน่อยก็ถึงเวลาลงถนนจริงกันแล้ว รอบแรกไปลองวิ่งเล่นที่สวนเบญจสิริ วนเบาๆ 3-4 โล เพื่อเป็นการนวดๆ รองเท้าซักหน่อย สำหรับวันนี้ผมรู้สึกว่าความหนาของรองเท้า ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่นิดหน่อย พอชินถึงจะเริ่มวิ่งได้สมูทขึ้น แล้วก็รู้สึกว่าโฟมกับแผ่นคาร์บอนยังดามเท้าอยู่ รวมถึงการคุมเพซจะค่อนข้างคุมยากเพราะว่าเทคโนโลยี Speed Roll ที่ใส่เข้ามาทำให้ตัวรองเท้ามันผลักเราไปข้างหน้าเรื่อยๆ ถ้าจะคุมเพซช้าๆ ต้องมีสติซักหน่อยครับ วันนี้เน้นวิ่งช้า ยังไม่ได้ลองกดความเร็วลง
พอวันหยุดก็ได้โอกาสวิ่งทั้งในสวนและ City Run รอบนี้ลองดูที่ 10 กิโล ตั้งใจลองทุกย่านความเร็วตั้งแต่เดิน วิ่งเหยาะๆ วิ่งทำความเร็ว และลองหลายๆ สภาพพื้นผิว สิ่งแรกที่สัมผัสได้เลยคือความรู้สึกกับตัวโฟมและแผ่นคาร์บอนเปลี่ยนไปรู้สึกว่ามันนุ่มนวลขึ้นไม่ดามเท้าเท่าวันแรก แล้วก็เท้าปรับตัวกับความหนาและน้ำหนักได้แล้วทำให้รู้สึกเข้าเท้ามากขึ้น เริ่มกันในส่วนของ City Run ผมรู้สึกว่า Kinvara Pro เป็นรองเท้าที่มั่นคง วางเท้าได้เต็มถึงแม้ว่ามันจะหนาและสูง แต่ไม่รู้สึกว่าจะพลิกเลย ต่างกับ Bondi X รวมถึงความคล่องตัวที่มากกว่า เพราะขึ้นลงบันได ไม่มีปัญหาเหมือนที่เคยเจอ (ส้นติดขั้นบันไดเวลาลง) เรียกว่าวิ่งบนฟุตบาท ไม่มีปัญหาเลย ช่วงที่เหนื่อยๆ แล้วสลับเดินก็ไม่รู้สึกถึงอาการยวบยาบ เดินได้สบาย ไม่กินแรง บริเวณส้นเท้าก็นุ่มสบายรับกับส้นพอดีแรงกระแทกกลับน้อยมากๆ
ในแง่ของการกดความเร็ว ก็ไปทดสอบกันในสวน ไม่คิดว่า Kinvara Pro มันจะสนุกขนาดนี้เพราะตอนแรกที่ City Run ก็รู้สึกว่า อือ ก็ไม่ได้หวือหวาเท่าไหร่ คล้ายๆ กับตัวที่เคยใส่อยู่ แต่ว่าพอกดความเร็วลง โอ้โห มันเด้งได้สนุกมากๆ ส่วนตัวผมเทียบว่า Endorphin Speed 3 มันจะเด้งแบบ ปราดเปรียว พุ่งๆ ส่วน Mach X ก็จะคล้ายๆ กันแต่จะต้องออกแรงกดสอยขาถี่ๆ หน่อย (เพราะทรงรองเท้าไม่ช่วย) แต่ Kinvara Pro มันให้ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ในโลกการ์ตูนที่มันเด้ง ดึ๋งๆ กระโดดสูงๆ ก้าวยาวๆ (เหมือนเรากระโดดอยู่บนเห็ดยักษ์ในโลกการ์ตูน) แล้วมันก็เป็นความรู้สึกที่สนุกดีจริงๆ ถ้ามันเบากว่านี้ผมว่ามันจะเป็นความรู้สึกที่สนุกขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ
เรียกว่าผมชอบตอนวิ่งเร็วๆ มากกว่าตอนวิ่งเรื่อยๆ ถือว่าเป็นรองเท้าใส่ซ้อมทำความเร็วได้สนุกเลยครับ
แต่มีคำถามที่อาจจะต้องรอหาคำตอบก็คือพื้นของรองเท้าที่เค้าไม่มียางอะไรมาให้เลย ซึ่งน่ากลัวเหมือนกันครับว่าโฟม PWRRUN ที่ใช้เป็นพื้นมันจะทนทานได้แค่ไหน และกันลื่นได้ดีมั้ย (ส่วนตัวยังไม่ได้วิ่งตอนเจอฝน แต่มีผ่านน้ำบ้างนิดหน่อย ก็เอายู่ไม่ลื่นแต่ยังไม่อยากการันตีเพราะยังอยากลองแบบเต็มๆ อีกที)
สรุป : Kinvara Pro ถือว่าเป็นรองเท้าวิ่งคาร์บอนที่เหมาะกับคนที่ต้องการรองเท้าคาร์บอนที่ไม่กระด้างเท้า ปรับตัวง่าย และใช้วิ่งได้ทุกวัน วิ่งได้ทุกย่านความเร็ว ในราคา 6,xxx (ตอนนี้รองเท้าคาร์บอนคือ 8 9 พันกันหมดเลย) และข้อดีอีกอันผมว่าคนที่น้ำหนักตัวเยอะๆ หันมาใช้รองเท้าที่หนาๆ แต่มีแผ่นก็จะช่วยทำให้ไม่รู้สึกจมหรือยวบยาบเกินไปได้ มั่นคงขึ้น
ความรู้สึกแรกหลังใช้งานจริง : Tiktok