La Sportiva Akasha และ Lycan II เป็นสองรุ่นในสี่รุ่นที่มีจำหน่ายอยู่ในไทยตอนนี้ ซึ่งจริงๆแล้วรองเท้าวิ่งเทรลของแบรนด์ La Sportiva นั้นมีเยอะรุ่นมากๆ เรียกว่าถ้ามีจำหน่ายครบทุกรุ่นในไทยคงจะเลือกกันไม่ถูกเลยหล่ะครับ
.
เดือน ก.ย. ที่ผ่านมาผมได้หยิบสองรุ่นนี้มาลองวิ่งดู เลยอยากจะมาเล่าคาแรคเตอร์ของทั้งสองรุ่นให้ฟังกันครับ และอยากจะเกริ่นนำไว้ก่อนว่า Akasha ทำให้ผมเซอร์ไพรซ์เอามากๆเลย
.
ผมจะเริ่มเล่าคาแรคเตอร์ทีละรุ่นนะครับ เริ่มจาก Akasha แล้วไป Lycan II แล้วตอนท้ายผมจะสรุปเทียบให้เพื่อนๆอีกครั้งว่าแต่ละรุ่นเหมาะกับคนวิ่งเทรลแบบไหนบ้าง
.
La Sportiva Akasha
.
.
รุ่นนี้อ่านออกเสียงว่า อะ-คา-ช่า โดยรุ่นนี้เป็นหนึ่งในตัวที่นิยมที่สุดของแบรนด์เลยครับ โดยทางแบรนด์บอกว่าเป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่ซัพพอร์ตแรงกระแทกดี พื้นหนึบ ดอกคมและลึก วิ่งได้ทุกสภาพผิว ... ผมเลยอยากลอง!
หน้าตา
เรื่องหน้าตา สำหรับผมนะ สีสันโดดเด่นมาก รูปทรงก็ดูปราดเปรียว เรียกได้ว่าเป็นคู่ที่หล่อทีเดียวเลยครับ วัสดุจับๆดูถือว่าสัมผัสดีและดูแข็งแรงทนทานครับ
สวมใส่ครั้งแรกก่อนวิ่ง
ตอนที่ลองที่ร้าน รู้สึกกระชับเท้าดีมากครับ เนื่องจากโครงบริเวณกลางเท้าโอบเท้าเอาไว้เลยทำให้รู้สึกมั่นคงดี หน้าเท้าเรียกว่าปกติของรองเท้าวิ่งเทรลทั่วไป เรียวนิดนึง ไม่แคบไปและก็ไม่ได้กว้าง ... สำหรับผม ผมชอบรองเท้าเทรลที่หน้าเท้ากว้างหน่อย เวลาวิ่งดาวน์ฮิลมันจะสบายหน้าเท้า นิ้วไม่เบียด
ออกวิ่งเทรลจริงที่เขาพาง จ.ชุมพร
เป็นสนามที่บ้านเกิดผมเองครับ เวลาซ้อมเทรลผมจะมาซ้อมที่นี่แหละครับ โดยจะมีทั้งทางหินลอย และทางดินชันๆ ทางคอนกรีตก็มีที่ด้านล่าง ... วันที่ผมซ้อมฝนตกพอดี เรียกได้ว่าเพอร์เฟคมากสำหรับการลองรองเท้าวิ่งเทรล
ความนุ่มตอนวิ่ง
ความหนาของพื้น Midsole ที่ส้นเท้าหน้า 31mm หน้าเท้าหนา 25mm สำหรับผมถือว่ากำลังคล่องตัวไม่บางไป ไม่หนาไปครับ ฟิลลิ่งตอนวิ่งบนพื้นคอนกรีต ไม่รู้สึกกระด้างเท่าไหร่ มีความแน่นมากกว่านุ่มครับ วิ่งอยู่ 3 ชั่วโมงกับคู่นี้ก็ไม่ได้สะท้านเท้านะครับ สำหรับผมถือว่าผ่านนะครับถ้าเจอสนามเทรลที่มีพื้นลาดยาง พื้นคอนกรีตเยอะๆ
การยึดเกาะ
.
.
วัสดุยางของ Outsole ทางแบรนด์ใช้ชื่อว่า FRIXION ระดับความหนึบมีหลายระดับโดยแบ่งเป็นสีต่างๆ ซึ่งรุ่น Akasha นี้เป็นสีแดงครับ ... ความลึกของดอกอยู่ที่ 4.5mm
หลังจากที่ผมได้ลองวิ่งจริง บอกเลยว่าเซอร์ไพรซ์กับความหนึบระดับ 10 เต็ม 10 ครับ ผมถึงกับให้สโลแกนรุ่น Akasha ว่า "หนึบกว่า Vibram ก็ Akasha นี่แหละ"
.
.
เจอหินเปียก ไม่ลื่นเลย! ทางลงลาดยางและคอนกรีตชันที่เปียก ก็ไม่ลื่นเลย! เจอทางดินชันๆเปียกก็จิกดินดีมากเพราะดอกทั้งลึกทั้งคม! ... พื้นแบบนี้หาได้ยากมาก! ผมนึกเสียดายอย่างเดียวครับ ถ้า Toebox กว้างกว่านี้หน่อยนะแหม่ Perfect!
ความทนทานของพื้น Outsole
ผมอยากพูดประเด็นนี้หน่อยเพราะ ใช้วิ่งไปประมาณ 35 กิโล พื้นเริ่มสึกอยู่บ้าง ... ไม่ทนเท่ากับพื้น Vibram แต่ถ้าเทียบกับพื้นรองเท้าเทรลทั่วไป ความทนทานก็ระดับค่าเฉลี่ยครับ
.
.
การระบายน้ำ
บ้านเราเจอร้อนชื้น เจอฝนบ่อยและก็ลงลำธารเยอะ การระบายน้ำก็สำคัญนะครับ ไม่งั้นเท้าพองได้ง่ายๆ ... รุ่น Akasha นี้น้ำสามารถระบายออกได้ทางด้านข้างรองเท้าครับ น้ำไม่ขัง เยี่ยม!
La Sportiva Lycan II
.
.
รุ่นนี้เป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่ทางแบรนด์ออกแบบมาสำหรับการใส่วิ่งระยะกลางและทำความเร็ว ไม่ได้เน้นซัพพอร์ตมากเท่าไหร่ แต่หน้าเท้าจะกว้างกว่ารุ่น Akasha นิดหน่อยครับ
หน้าตา
เนื่องจากว่าเจอความหล่อของ Akasha ไป รุ่นนี้เลยดรอปไปเลยครับ บอกกันตรงๆ
สวมใส่ครั้งแรกก่อนวิ่ง
ให้ความรู้สึกสบายหน้าเท้าขึ้นเล็กน้อย เป็นเพราะ Toebox รุ่น Lycan II นี้ไม่ได้มีโครง TPU แปะครับ เลยมีความยืดหยุ่นของผ้ามากกว่ารุ่น Akasha ... และด้วยบริเวณกลางเท้าก็มีโครง TPU ครอบไว้น้อยกว่า Akasha เลยไม่ได้รู้สึกกระชับเท่า แต่ก็ไม่ถึงกับหลวมนะ เพราะเราเมื่อรัดเชือกมันก็กระชับปกติ ผมว่าคนที่เท้ากว้าง หลังเท้าอูมรุ่นนี้จะเหมาะกว่า
ความนุ่มตอนวิ่ง
ความหนาของพื้น Midsole ที่ส้นเท้าหน้า 26mm หน้าเท้าหนา 20mm เลยทำให้รู้สึกว่ามีความกระด้างเล็กน้อยครับ พื้นแน่นๆ ไม่ได้นุ่มมาก รู้สึกว่าคล่องตัวมากกว่า Akasha อย่างชัดเจน ... ตอนเจอถนนคอนกรีต รู้สึกสะท้านมากกว่า Akasha แต่ถ้าเทียบกับรองเท้าวิ่งเทรลที่ดอกหนาแบบนี้ พื้นหนาประมาณนี้ รุ่น Lycan II ถือว่าสบายกว่าพอตัวเลยหล่ะครับ!
การยึดเกาะ
.
.
FRIXION สีฟ้าครับ ... ความลึกของดอกอยู่ที่ 6.5mm เรียกว่าดอกลึกมาก การจิกดินเปียกทางชันผมว่าทำได้ดี แต่ต้องใช้น้ำหนักกดนิดนึงนะครับ เพราะดอกไม่คมเท่าไหร่ ถ้าจิกดินลงไปได้แล้ว เรียกว่าเกาะดีเลยหล่ะครับ
ส่วนเมื่อเจอหินเปียก ถนนเปียก ผิดหวังครับมันลื่นแบบแฟร้ดเลยครับ ก็ต้องค่อยๆครับและต้องเพิ่มความระวังขึ้นครับ เมื่อฝนตก
ความทนทานของพื้น Outsole
ผมว่าพอๆกันกับ Akasha ครับ
การระบายน้ำ
ตัวนี้ทำได้ไม่ดีเท่ากับ Akasha เพราะถูกหุ้มไปด้วยดีไซน์ของโครงรองเท้า น้ำไม่สามารถระบายออกทางด้านข้างได้ ต้องระบายออกทางด้านบนครับ
.
.
สรุปปิดท้ายกับคำถามว่า Akasha กับ Lycan II เหมาะกับใคร?
La Sportiva รุ่น Akasha
คาแรคเตอร์คือซัพพอร์ตดี วิ่งไกลได้ พื้นโคตรหนึบ ไปได้ทุกสนาม
- เหมาะกับเพื่อนๆที่ชอบวิ่งเทรลภาคเหนือ เขาชันๆ ฝนตกบ่อย
- เหมาะกับสนามที่เจอทั้งถนน ทางเดินเท้าชาวบ้าน หินเยอะ ดินแฉะ
- เหมาะกับเพื่อนๆที่ไม่ได้ติดรองเท้าที่นุ่มมากๆ แต่ชอบความหนึบ
La Sportiva รุ่น Lycan II
คาแรคเตอร์คือซัพพอร์ตใช้ได้ คล่องตัวมาก จิกดินดี สบายหน้าเท้า
- เหมาะกับเพื่อนๆที่วิ่งระยะไม่ไกลมาก 40K กำลังดี ต้องการทำเวลาหน่อย
- เน้นเร็ว เน้นปีนป่ายทางดินชันๆ
- ชอบแบรนด์ La Sportiva สบายหน้าเท้าหลังเท้าหน่อย
จบไปแล้วครับ สำหรับรีวิวรองเท้าวิ่งเทรลทั้งสองรุ่น หวังว่าคาแรคเตอร์ที่ผมอธิบายไว้จะพอทำให้เพื่อนๆเห็นภาพและช่วยประกอบการตัดสินใจได้ หากมีคำถาม ข้อสงสัยเพิ่มเติมก็สามารถทักเข้ามาทางเพจหรือไลน์ร้านได้เลยครับ
.
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจรองเท้าวิ่งเทรล La Sportiva ทั้งสองรุ่นสามารถสั่งซื้อได้ที่
Website : Click
Shopee : Click
Lazada : Click
หน้าร้าน Runnercart ซ.สุขุมวิท22 กรุงเทพฯ : Click
#ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆนักวิ่งทุกคนที่สนับสนุนพวกเราชาว Runnercart เสมอมา
#เรื่องเทรลเราจริงจัง
#อุปกรณ์วิ่งเทรลครบสุดในกรุงเทพ