Hoka Speedgoat 5 และ Hoka Mafate Speed 4 แตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนคือคำตอบ ?
.
.
ในปี 2022 ที่ทาง Hoka ได้ปล่อยรองเท้าเทรลรุ่นยอดนิยมออกมาอีกครั้ง นั่นก็คือเจ้า Hoka Speedgoat 5 และ Mafate Speed 4 ซึ่งหลายคนก็อาจจะเกิดคำถามว่าเอ๊ะ ดูไปดูมาทั้งสองตัวก็เหมือนจะเป็นตัว TOP ของค่าย แล้วแบบนี้จะเลือกยังไงดีนะ จับดูผ้า พลิกดูพื้น จิ้มดูโฟม ก็ยังสงสัยว่าจะเลือกรุ่นไหนดีนะ ช่างตัดสินใจยากจริงๆ เพราะทั้งคู่ดูเหมือนจะดีและเทคโนโลยีก็ไม่ธรรมดากันทั้งคู่เลย
.
ฉะนั้นเดี๋ยวผมขอพาทุกคนดูกันไปทีละส่วน ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้ใส่ และความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าพร้อมแล้วก็ออกไปผจญภัยพร้อมกับผมได้เลย
.
.
UPPER
Hoka Speedgoat 5 : recycled polyester and double jacquard recycled mesh
Hoka Mafate Speed 4 : jacquard mesh
ถึงแม้ว่าทั้งคู่เหมือนจะใช้ jacquard mesh กันทั้งคู่ก็จริง แต่ความรู้สึกของทั้งคู่กลับมีความแตกต่างกันอย่างมากทั้งในเรื่องของผิวสัมผัสที่ Speedgoat 5 จะให้ความรู้สึกนุ่ม นิ่ม อ่อนโยนต่อผิวเท้าและยังให้ตัวได้ดีกว่า Mafate Speed 4 แบบขาดลอย อาจจะเป็นเพราะว่า Speedgoat 5 เองมีการผสมตัว Polyester เข้าไปด้วย ทำให้เกิดความแตกต่าง ซึ่งตัว Mafate Speed 4 จะให้ความรู้สึกที่ดูทนทาน กระด้างกว่า ให้ตัวได้ไม่เท่า Speedgoat 5
.
และถัดมาในเรื่องของการเสริม TPU และการวางลวดลายต่างๆ บนรองเท้า ซึ่งส่งผลทำให้ Upper ของทั้งคู่แตกต่างกันมากขึ้น เพราะการวางลวดลายและ TPU อย่างใน Mafate Speed 4 นั้นทำให้ตัวรองเท้าเกิดความกระชับ มั่นคง แต่ก็ต้องแลกกับการที่ตัวรองเท้าจะขยายตัวได้ไม่มาก ซึ่งใน Speedgoat 5 แถบจะไม่มีการเย็บลวดลายเสริม หรือ TPU เข้ามาซักเท่าไหร่ ทำให้ตัวผ้าขยายได้เต็มที่ ส่งผลให้เกิดความสบายของหน้าเท้า แต่เวลา Down hill อาจจะทำให้เกิดความไม่มั่นคงได้ เพราะไม่มีตัวช่วยในการประคองเท้าไว้ (มันจะไหลไปรวมกันข้างหน้าได้ง่ายกว่า)
.
ในเรื่องของ Toe Cap ถึงแม้จะมีลักษณะที่แตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ถ้าสังเกตุดีๆ แล้วทั้งระยะ ความหนา ความกว้าง ใกล้เคียงกันมากๆ จากที่ลองกดทดสอบดู รู้สึกว่าปกป้องนิ้วเท้าได้ดีพอๆ กันไม่ได้แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญซักเท่าไหร่
.
.
มาถึงเรื่องของลิ้นรองเท้าและเชือกกันบ้าง ทั้งสองรุ่นจะมีเชือกลักษณะเดียวกันคือเป็นแบบแบน ความยาวเหมือนกัน แต่จุดที่แตกต่างคือลิ้นรองเท้าเพราะ Mafate Speed 4 จะมีลักษณะหนาๆ นุ่มๆ เหมือนรองเท้าผ้าใบปกติที่เห็นตามท้องตลาด ส่วนของ Speedgoat 5 จะเป็นแบบบาง (ซึ่งจุดนี้ถ้าใครหลังเท้าอูมหรือเนื้อเท้าเยอะ อาจจะไม่ค่อยชอบแบบ Mafate Speed 4 เพราะมันจะแน่นหลังเท้า) แต่ส่วนตัวผมชอบแบบหนานุ่มมากกว่าบางกรอบ 555
.
.
ถ้ามาที่บริเวณด้านท้ายของรองเท้ากันบ้างครับ ในส่วนของ Heel Counter มีลักษณะคล้ายกัน แตกต่างที่ Mafate Speed 4 มีห่วงเชือกไว้ให้คล้องในกรณีที่ใส่รองเท้า ทำให้ใส่ง่ายกว่าตัว Speedgoat 5
.
สรุปในเรื่องของ Upper ส่วนตัวผมมองว่าถ้าใครชอบความสบาย หน้าเท้ากว้างหน่อย ให้ตัวได้มากกว่า ผ้ายืดหยุ่นสบาย ให้ไปที่ Speedgoat 5 แต่ถ้าใครชอบความกระชับต้องการรองเท้าที่ประคับประคองเท้าซีเรียสในประเด็นพวกนี้ ให้ไปที่ Mafate Speed 4
.
.
MIDSOLE
Hoka Speedgoat 5 : compression-molded EVA foam (CMEVA)
Hoka Mafate Speed 4 : PROFLY™+
ในจุดนี้ต้องบอกเลยครับว่าเป็นความแตกต่างด้านเทคโนโลยีที่ค่อนข้างชัดเจนมากๆ เพราะอย่าง Speedgoat ยังคงใช้เป็น EVA แต่เป็น EVA ที่ถูกพัฒนามาใหม่จะต่างกับ Mafate Speed 4 ที่นำเทคโนโลยี PROFLY™+ มาใช้ ไม่ได้เลือกใช้เป็น EVA เหมือน Speedgoat 5
.
ซึ่งจากที่ได้ลองส่วมใส่และจับความรู้สึกได้ ผมรู้สึกว่า Mafate Speed 4 ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลและเป็นมิตรกับเท้ามากกว่า Speedgoat 5 ตัว Speedgoat 5 ให้ความรู้สึกที่นุ่มแต่แน่นกว่า (แต่ถ้าวิ่งลงส้นเต็มๆ ผมรู้สึกว่านุ่มพอๆ กัน)
.
.
ถัดมาที่ทรง Rocker ของทั้งคู่ ผมรู้สึกว่าตัว Speedgoat 5 หน้าจะเชิดกว่าทำให้กลิ้งเท้าได้ง่ายและทำรอบได้ดีกว่า Mafate Speed 4 แต่ถ้าพูดกันถึงเรื่องความมั่นคง อันนี้ต้องยอมให้ทาง Mafate Speed 4 เค้าเลยด้วยความหนา ความสูงที่ไม่มากจนเกินไปและความเชิดของหน้าเท้าที่กำลังดีสำหรับการทรงตัว ทำให้การวางเท้ามั่นใจกว่า
.
สรุปในเรื่องของ Midsole ชอบนุ่ม มั่นคง พื้นไม่สูงมาก Mafate Speed 4 แต่ถ้าอยากซิ่งทำความเร็ว กลิ้งเท้าดีควงขามัน Speedgoat 5 ดีกว่า
.
.
OUTSOLE
Hoka Speedgoat 5 : VIBRAM® MEGAGRIP WITH TRACTION LUG
Hoka Mafate Speed 4 : VIBRAM® MEGAGRIP WITH LITEBASE CONSTRUCTION AND TRACTION LUG
"ความขิงของ Mafate Speed 4" ทำไมผมถึงบอกแบบนี้เพราะถ้าดูเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามาในพื้นของ Mafate Speed 4 จะเห็นว่า ทุกอย่างจะคล้ายกับ Speedgoat 5 แถบทั้งหมดแต่ที่ผมบอกว่าขิงเพราะ ทุกอย่างเหมือนกันแต่ได้น้ำหนักที่เบากว่านั่นเอง แบบนี้ไม่เรียกว่าขิงจะให้เรียกว่าอะไรดี 555 ได้ทั้งยึดเกาะดี ทนทาน เพิ่มปุ่มเล็กๆ เข้ามาเหมือนกัน แต่ดันได้ลดน้ำหนักลงไป ถ้า Speedgoat 5 บ่นได้ คงบอกว่า "แล้วทำไมของกู ไม่ได้แบบนั้นบ้าง T T"
.
แต่ถึงแม้เทคโนโลยีจะเหมือนกัน แต่ลายดอกที่ให้มากับต่างกัน ถ้าดูจากในรูปจะเห็นว่าลายดอกของ Speedgoat 5 ดอกเล็กแต่จะคมกว่า ส่วนของ Mafate Speed 4 ดอกจะกว้าง ใหญ่ แต่ความคมจะน้อยกว่า ความคิดเห็นส่วนตัวผมมองว่าถ้าในกรณีที่เจอโคลนเยอะหน่อยดอกลายใหญ่และห่างจะดีตรงโคลนอาจจะเกาะยากกว่าพวกลายดอกคมเล็กและถี่ แต่กลับกันถ้าในกรณีพื้นปกติ พวกดอกเล็กคมและถี่ จะยึดเกาะ จิก กระชากพื้นได้ดีกว่า แต่ถ้าดูที่ความยาวลึกของดอกยาง Mafate Speed 4 ดอกจะลึกกว่า ช่วยทำให้ยึดเกาะพื้นได้ดี ตะกรุยดี แต่อาจจะเกาะดีเกินไปสำหรับใครที่ต้องการความเร็วแบบแตะแล้วไป ซึ่งถ้าเป็นในกรณีนี้ Speedgoat 5 จะไปข้างหน้าได้ไวกว่า เพราะได้ดอกที่เล็ก คม ถี่ แต่ไม่ลึกนั่นเอง
.
สรุปในเรื่องของ Outsole ถ้าต้องการรองเท้าที่เน้นการยึดเกาะดีๆ มั่นใจ Mafate Speed 4 แต่ถ้าต้องการรองเท้าที่ยึดเกาะให้มั่นใจ และแตะพุ่งไปข้างหน้าได้ง่ายๆ Speedgoat 5
.
.
สรุปส่งท้าย
ก่อนจะแนะนำและจากลา ส่วนตัวถ้าให่ผมเลือกผมแอบเทใจไปทาง Mafate Speed 4 เนื่องจากความหนาและสูงที่ไม่มากจนเกินไป บวกกับความกระชับเท้า ทำให้การเคลื่อนที่ค่อนข้างคล่องตัว โฟมที่ได้ค่อนข้างถูกจริตกับตัวผมที่มีความนุ่มแต่ยวบ ทำให้สามารถเร่งทำความเร็วได้อยู่บ้าง ส่วนเรื่องของพื้นและดอกยาง ในส่วนนี้ผมชอบทั้งสองรุ่นเลยไม่ติดในประเด็นนี้ แล้วทำไมผมถึงไม่เลือก Speedgoat 5 เพราะส่วนตัวหน้าเท้าไม่ได้กว้างมาก รู้สึกว่าพอใส่ Speedgoat 5 ถ้าตอน Downhill เท้ามันจะไถลลงมาด้านหน้ามากกว่าปกติ รวมถึงบาลานซ์ไม่ดีเท่ากับ Mafate Speed 4 เนื่องจากขาผมโก่งทำใหเวลาลงเท้า มันจะไม่ได้ลงองศาแบบปกติ อาจจะมีบางจังหวะที่พลิกได้ (แต่สมัยก่อนผมนี่แฟนบอย Speedgoat เลย แต่พอมาเจอ Mafate Speed 4 ขอแอบย้ายฝั่ง 555)
.
เอาเป็นว่าถ้าใครชอบ "มั่นคง กระชับ นุ่ม" Mafate Speed 4
แต่ถ้าใครชอบ "สบายเท้า ควงขาดี แน่นนิดๆ ซิ่งหน่อยๆ " Speedgoat 5
มาเจอกันที่หน้าร้าน: หมู่บ้านร่วมจิต ซอยสุขุมวิท22
Map: http://bit.ly/RunnercartMap
เวลาเปิดทำการหน้าร้าน
- วันธรรมดา 9.00 น. - 18.00 น.
- วันเสาร์ - วันอาทิตย์ 11.00 น. - 16.00 น.
- วันหยุดนักขัตฤกษ์ 11.00 น. - 16.00 น.
(OPEN EVERYDAY )
ส่งฟรี / เปลี่ยนไซส์ฟรี
ผ่อน 0% 3-4เดือน (เมื่อยอดครบ 3,000 บาท)
ชิน ชินพรรธน์ ทีม Content Runnercart
เด็กหนุ่มกรุงเทพร่างบางที่หลงใหลการวิ่ง City Run กลางแดดเปรี้ยงๆ ไม่ใช่อะไรครับ ตื่นเช้าไม่ทัน ผ่าม! และเค้ายังชอบการวิ่งเทรลเพราะรู้สึกว่าท้าทายจิตใจ ร่างกาย และเป็นส่วนนึงกับธรรมชาติ เพซวิ่งแบบมีความสุข คือเพซ 6-7 งานอดิเรกคือการดูหนังและเม้าท์มอย
สโลแกนส่วนตัว ซ้อม 3 เดือน พัก 6 เดือน (เน้นพักไม่เน้นซ้อม)