Dynafit Ultra DNA เป็นรองเท้าวิ่งเทรลของแบรนด์ที่วางคาแรคเตอร์ให้เป็นรองเท้าวิ่งเทรลสำหรับนักกีฬาที่ต้องการทำเวลา เน้น Performance สำหรับการวิ่งเทรลระยะอัลตร้า ... หลังจากที่ผมได้ลองวิ่งแล้ว Dynafit Ultra DNA คู่นี้มีจุดเด่นตรงที่
- Stability : ความมั่นคงของรองเท้าและการวางเท้า
- Responsive : การตอบสนอง
- Support : การซัพพอร์ตแรงกระแทก
ด้วยฟิลลิ่งของรองเท้าเทรลรุ่นนี้ที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ผมเลยมองว่าเหมาะกับนักวิ่งเทรลที่เน้นเรื่องการทำเวลา การตอบสนองมากกว่าเรื่องความนุ่มสบายครับ ส่วนดีเทลละเอียดเราจะคุยกันด้านล่างทีละส่วน
เรามาเริ่มกันที่สเปคของคู่นี้ก่ันก่อนเพื่อให้เห็นภาพคร่าวๆว่าทำไมแบรนด์ดึงออกแบบมาแบบนี้
Stack Height : หน้าเท้า 23 mm. ส้นเท้า 31 mm.
Drop : 8mm
Outsole : VIBRAM LITEBASE
Lugs : 3.5 mm
Weight : 9US 280 g
ความสูงของพื้นรองเท้า 23-31mm อยู่ในระดับ Mid-High Cushioning เลยครับ ส่วน Drop 8mm ถือเป็นรองเท้าที่เน้นให้มีความคล่องตัวในการยกเท้า คือแตะแล้วยกเท้า ดอกยางลึก 3.5mm เป็นดอกยางที่เน้นความคล่องตัวมากกว่าการจิกดินลึกๆ หมายความว่า เน้นความคล่องตัวนั่นแหละ คนวิ่งก็ต้องมีประสบการณ์ มีทักษะในการทรงตัว ในการวิ่งด้วยเช่นกัน
ดีไซน์
การดีไซน์ของรุ่นนี้ รูปทรงและสี เห็นชัดว่าออกไปทางความเป็นนักกีฬาเลยครับ ทั้งการวางลายคาดเฉียงมาทางด้านหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยว รูปทรงรองเท้า วัสดุ และบริเวณ Heel collar ให้ดูมีความเฟี้ยว มีความเฉี่ยว
เชือกรองเท้า
เป็นเชื่อก Quick laces แบบใหม่ของทางแบรนด์ เรียกว่าสะดวกมากทั้งรูดและคลายเชือก ... เวลาจะรัดก็ดึงสายด้านข้างทั้งซ้ายและขวาพร้อมกัน ส่วนเวลาคลายเชือกก็ดึงสายตรงกลางขึ้นมา โคตรสะดวก อันนี้ผมชอบมาก
และมีช่องเก็บเชือกด้วย ให้ดูเรียบร้อย เวลารูดเชือกแล้วเราก็ม้วนปลายเชือกลงมาเรื่อยแล้วก็สอดไว้ในช่องเก็บเชือกแบบนี้
ดาวฮิลยาวๆเชือกก็ไม่คลายนะครับ
โครงสร้างด้านบน
ไม่แน่ใจวัสดุเป็นอะไร เพราะทางหน้าเว็บ Official แบรนด์ไม่ได้ให้รายละเอียดไว้ ลักษณะดูเป็นผ้า Polyester based คือมีความบาง เหนียว กระด้าง เพื่อให้ผ้าน้ำหนักเบาครับ
ผ้าบริเวณสีขาวด้านในเหมือนจะมีอะไรเคลือบกันน้ำไว้ ทำให้ลุยระดับน้ำที่ไม่เกินขอบขาวได้ และแน่นอนครับเมื่อน้ำเข้าแล้วก็ขังด้านในเช่นกัน ตอนวิ่งน้ำจะถูกดันออกบริเวณผ้าสีดำ ดังนั้นเมื่อเปียกน้ำแล้วคาดว่าจะแห้งช้ากว่ารองเท้าเทรลที่ระบายน้ำได้ดีครับ
การกระชับหลังเท้าทำได้ค่อนข้างดี ให้เครดิตส่วนนี้กับการออกแบบเชือกเลยครับ ผมว่ามีผลจากส่วนนี้ค่อนข้างมาก
บริเวณ Heel counter มีโครงสร้างโอบส้นเท้าไว้ ช่วยประคองข้อเท้าได้ด้วยครับ เราจะเห็นประโยชน์ตอนที่อยู่ในเรซนานๆ เท้าเริ่มล้า ข้อเท้าเริ่มล้า ส่วนนี้จะช่วยได้
การระบายอากาศทำได้ค่อนข้างดี ความร้อนไม่อบด้านใน
โครงสร้างด้านล่าง
ฐานของพื้นรองเท้ากว้าง โดยเฉพาะช่วง Midfoot ครับ ข้อดีก็คือเวลาวางเท้า รู้สึกวางได้เต็มเท้า และเท้าไม่พลิก ความมั่นคงของรองเท้ารุ่นนี้ค่อนข้างสูง วันที่ผมลอง เท้าไม่พลิกเลย (ช่วงนี้เท้าพลิกบ่อย) เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่เหมาะกับการใส่วิ่งระยะไกลๆ
พื้นโฟม Speed+ หน้าเว็บ Official ไม่ได้ให้รายละเอียดไว้ว่าวัสดุเป็นอะไร แต่ดูทรงแล้วคาดว่าน่าจะเป็น EVA ครับ เป็นโฟมที่มีความแน่น ความเฟิร์ม ตอนวิ่งแทบไม่มีช่วงยุบเลย เน้นการตอบสนองจริงๆ เรียกว่าใส่แรงลงไปเท่าไหร่กลับมาเท่านั้น ... ถามว่ากระด้างหรือแข็งไหม ไม่ถึงกับกระด้างหรือแข็งครับ
Rockshield หน้าเว็บ Official แจ้งว่ารุ่นนี้มีแผ่นกันหินทิ่มอยู่ด้วย ผมคาดว่าน่าจะวางอยู่ช่วงบน ผมเดาเอาจากฟิลลิ่ง ... ตอนวิ่งรู้สึกได้ครับว่าวิ่งเจอพื้นหินกรวด หินแหลม รู้สึกถึงฝ่าเท้าน้อยมาก
พื้น Outsole Vibram Litebase เน้นเรื่องการยึดเกาะพื้นผิวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพืิ้นแห้งหรือเปียก รู้สึกว่าทางชันที่เป็นพื้นปูน ยึดเกาะได้ดีจริง ค่อนข้างมั่นใจ และถ้าเจอถนนเปียกๆชันๆ คิดว่าไม่น่าห่วงเรื่องความหนึบ ... ส่วนการดาวน์ฮิลที่เป็นพื้นดิน เนื่องจากดอกไม่ลึกครับ แค่ 3.5mm เท่านั้น การจิกดิน จิกได้ไม่ลึก ดังนั้นต้องอาศัยทักษะและความแพรวพราว การทรงตัวที่ดีหน่อยครับ แต่แน่นอนความเราจะได้ความคล่องตัวที่มากขึ้น
ฟิลลิ่งจากการใช้งานจริง
ครั้งแรกที่สวม การโอบรัดหลังเท้ารู้สึกถึงความเป็นรองเท้า Performance เลยครับ คือรู้สึกกระชับหลังเท้า และไม่ได้รู้สึกถึงความนุ่มสบายของ Upper มันเป็นความรู้สึกดิบของผ้านิดนึง รู้เลยว่าใส่วิ่งไปแล้วคงไม่ขยายไปกว่านี้มาก
การล็อคส้นเท้าไม่ได้ล็อคแบบ Perfect มีดิ้นบ้าง เนื่องจาก Heel counter เป็นแค่โครงสร้างขึ้นมาไม่ได้บุโฟมหนาๆ เป็นแค่แผ่นยาวๆ เหมือนรองเท้า racing shoes ต้องรัดเชือกให้แน่นหน่อยครับ ส้นเท้าถึงล็อคได้ดี
การตอบสนองก้าววิ่ง ทำได้ดี คือ โฟมไม่ยุบตัว ไม่กินแรง ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้เด้งส่ง ไม่ได้ติดสปริง ... ทำให้ผมนึกถึงรองเท้าวิ่งเทรล สาย performance แบบ old school หน่อยครับ ให้ฟิลลิ่งการซัพพอร์ตฝ่าเท้าได้ดี ในขณะที่การวิ่งก็ไม่ได้สปอยเท้า ใช้ performance ของนักกีฬาจริงๆ
จังหวะก้าวเราคุมได้ ฐานรองเท้ากว้าง การวางเท้ามั่นคง พืิ้น outsole หนึบ มั่นใจทุกก้าว ... Dynafit Ultra DNA เป็นรองเท้าวิ่งเทรลที่มีคาแรคเตอร์ค่อนข้างเฉพาะตัว ไม่ได้เป็นฟิลลิ่งนุ่มแบบมหาชน แต่เป็นฟิลลิ่งความซิ่งแบบดิบๆ และเป็นรองเท้าเทรลที่จะพานักวิ่งเข้าเส้นชัยได้อย่างปลอดภัย ลดโอกาสบาดเจ็บกับโครงสร้างที่ออกแบบมาสำหรับการวิ่งระยะอัลตร้าจริงๆ
การเลือกไซส์ Dynafit
รองเท้าเทรลแบรนด์นี้ความยาวรองเท้าสั่้นกว่ารองเท้าเทรลแบรนด์ทั่วไป 1CM หมายความว่าเราต้องเพิ่ม 1 ไซส์จากรองเท้าเทรลที่ใช้อยู่
เช่น เท้าผมยาว 25.5CM ปกติผมจะใส่รองเท้า 27CM (เผื่อปลายเท้าไว้กันเล็บม่วง) Hoka 9US(27CM) ส่วน Dynafit ผมต้องใส่ 10US (เนื่องจาก Dynafit รองเท้าเค้าสั้นกว่าแบรนด์อื่น)
เพื่อนๆคงจะตกใจว่าต้องเผื่อขนาดนี้เลยหรอ ... ใช่ครับ เพราะทางแบรนด์ Dynafit อ้างอิงการวัดรองเท้าด้วยวิธี Mondo point คือวัดไซส์เท้าจากส้นเท้าไปที่นิ้วโป้ง เลยทำให้ Dynafit สั้นกว่าแบรนด์อื่น
.
Dynafit มีวางจำหน่ายที่ Runnercart : Click